ข้อสอบประมวลความรู้ แผนกวิชาช่างซ่อมบำรุง ระดับชั้น ปวช.2

ระบบการวัดแห่งชาติแบ่งเป็นกี่ระบบ
1. 1 ระบบ
2. 2 ระบบ
3. 3 ระบบ
4. 4 ระบบ
แท่งความยาวเมตรมาตรฐานทำมาจากวัสดุใด
1. แพลทินัม 90% และเออร์ริเดียม 10%
2. แพลทินัม 90% และวาเนเดียม 10%
3. แพลทินัม 90% และอิริเดียม 10%
4. แพลทินัม 90% และอิริเดียม 10%
ปัจจุบันความยาวเมตรมาตรฐานปฐมภูมิ ใช้หลักการแบบใด
1. ความยาว 1 m = ¼ ของเส้นรอบโลก/10,000,000
2. แพลทินัม 90% และวาเนเดียม 10%
3. แพลทินัม 90% และอิริเดียม 10%
4. แพลทินัม 90% และอิริเดียม 10%
ระบบการวัดแห่งชาติประกอบด้วยอะไร
1. ระบบการวัดแห่งชาติเชิงพาณิชย์ ระบบการวัดแห่งชาติทางวิทยาศาสตร์
2. ระบบการวัดแห่งชาติเชิงกฎหมาย ระบบการวัดแห่งชาติทางอุตสาหกรรม
3. ระบบการวัดแห่งชาติเชิงมิติ ระบบการวัดแห่งชาติเชิงกล
4. ระบบการวัดแห่งชาติเชิงพาณิชย์หรือเชิงกฎหมาย ระบบการวัดแห่งชาติทางวิทยาศาสตร์และ อุตสาหกรรม
หน่วยงานใดดูแล รับผิดชอบระบบ ชั่ง ตวง วัด
1. กระทรวงยุติธรรม สำนักงานชั่ง ตวง วัด
2. กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตรวจชั่ง ตวง วัด
3. กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตรวจชั่ง ตวง วัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด
4. สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ
ชื่อใดคือห้องปฏิบัติการระหว่างชาติ
1. General Conference on Weights and Measures (CGPM)
2. International Committee for Weights and Measures (CIPM)
3. International Bureau of Weights and Measures (BIPM)
4. Consultative Committee for Electricity (CCE)
มาตรวิทยา (Metrology) หมายถึงอะไร
1. ศาสตร์แห่งการชั่ง
2. ศาสตร์แห่งการตวง
3. ศาสตร์แห่งการสอบเทียบ
4. ศาสตร์แห่งการวัด
ข้อใดไม่ใช่มาตรฐานการวัด
1. มาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานทุติยภูมิ
2. มาตรฐานการวัดระหว่างชาติ มาตรฐานการวัดแห่งชาติ
3. มาตรฐานอ้างอิง มาตรฐานถ่ายทอด
4. มาตรฐานขั้นใช้งาน มาตรฐานสอบเทียบ
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. การสอบเทียบ คือ ชุดของการดำเนินการเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างค่าที่ชี้บอกโดยเครื่องมือวัด
2. การสอบเทียบ คือ ชุดของการดำเนินการเพื่อหาความเกี่ยวข้องระหว่างค่าที่ชี้บอกโดย
  เครื่องมือวัด
3. การสอบเทียบ คือ ชุดของการดำเนินการเพื่อหาการจำแนกระหว่างค่าที่ชี้บอกโดยเครื่องมือวัด
4. การสอบเทียบ คือ ชุดของการดำเนินการเพื่อวิเคราะห์ระหว่างค่าที่ชี้บอกโดยเครื่องมือวัด
ระบบหน่วยวัดสากลคือข้อใด
1. National Institute of Standards and Technology, USA (NIST
2. International System of Units (SI Units)
3. National Physical Laboratory, UK (NPL)
4. สำนักงานมาตรฐานแห่งชาติ (สมอ.)
หน่วยพื้นฐาน (Base Units) ทั้ง 7 หน่วยของระบบเอสไอคือข้อใด
1. m, kg, s, A, K, mole, cd
2. m, kg, s, A, C, mole, cd
3. m, N, s, A, K, mole, cd
4. m, kg, s, V, K, mole, cd
หน่วยอนุพันธ์และสัญลักษณ์ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. A, m2
2. V, m3
3. ρ, kg/m3
4. σ, kg/m3
หน่วยอนุพันธ์กับชื่อพิเศษในระบบเอสไอข้อใดไม่ถูกต้อง
1. Newton, N
2. Hertz, h
3. Joule, J
4. Pascal, Pa
ทวีคูณและส่วนย่อยของทวีคูณของหน่วยเอสไอ กลุ่มของคำนำหน้า (prefixes) ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. μ, 10–3
2. 103, k
3. 106, M
4. 109 , G
ชื่อคำนำหน้าหน่วย ข้อใดถูกต้อง
1. km.
2. km
3. k–m
4. k.m
ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. 103 = 1000
2. 10–4 = 1/1000
3. 106 = 1 000 000
4. 10–6 = 1/1 000 000
ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. 0.001 mm = 1 µm
2. 0.001 mm อ่านว่า 1 micron
3. 0.001 mm อ่านว่า ศูนย์จุดศูนย์ศูนย์หนึ่งมิลลิเมตร
4. 0.001 mm 1x103 m
ข้อใดไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับความสามารถสอบกลับได้
1. สถาบันมาตรฐานแห่งชาติ
2. ห้องปฏิบัติการสอบเทียบของรัฐและเอกชน
3. ห้องปฏิบัติการสอบเทียบในโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ
4. เครื่องมือตรวจวัดที่ต้องการสอบเทียบ
ความไม่แน่นอนของการวัดจะต้องคำนวณโดยวิธีที่เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นสากล และโดยทั่วไปจะต้อง รายงานที่ระดับความเชื่อมั่นที่เท่าไร
1. 90%
2. 95%
3. 99%
4. 100%
ความไม่แน่นอนของการสอบเทียบแบ่งเป็นกี่แบบ
1. Type A
2. Type A, Type B
3. Type A, Type B, Type C
4. Type A, Type B, Type C, Type D
จากรูปมีความหมายอย่างไร
1. ค่าความถูกต้อง (Accuracy) ต่ำกว่า แต่ค่าความแม่นยำ (Precision) สูง
2. ค่าความถูกต้อง (Accuracy) สูงกว่า แต่ค่าความแม่นยำ (Precision) ต่ำ
3. ค่าความถูกต้อง (Accuracy) ต่ำกว่า แต่ค่าความแม่นยำ (Precision) ต่ำ
4. ค่าความผิดพลาด (Error) สูงกว่า แต่ค่าความแม่นยำ (Precision) ต่ำ
ข้อใดไม่ใช่มาตรฐานขั้นตอนการสอบเทียบ
1. ISO 9000
2. ISO/IEC 17025
3. ISO 14000
4. HACCP
การประเมินค่าความไม่แน่นอน ที่มีค่าคลาดเลื่อนไม่เกินค่า 0.001 mm ลักษณะความไม่แน่นอนเช่นนี้ มีลักษณะการแจกแจงแบบใด
1. การแจกแจงแบบปกติ
2. การแจกแจงแบบสี่เหลี่ยม
3. การแจกแจงแบบสามเหลี่ยม
4. การแจกแจงแบบวงกลม
ค่าเฉลี่ยของ 25.02, 25.03, 25.12, 25.06 เป็นเท่าไร
1. 25.056
2. 25.057
3. 25.058
4. 24.059
ค่าเบี่ยงแบนมาตรฐานของ 25.02,25.03,25.12,25.06 เป็นเท่าไร
1. 0.042
2. 0.043
3. 0.044
4. 0.045
ขนาดชิ้นงาน mm ควรใช้เครื่องมือวัดชนิดใดตรวจสอบขนาด
1. บรรทัดเหล็ก ขนาด 150 mm ความแม่นยำ (Accuracy) 0.5 mm
2. เวอร์เนียร์คาลิเปอร์ ขนาด 150 mm ความแม่นยำ (Accuracy) 0.05 mm
3. ไมโครมิเตอร์ ขนาด 25–50 mm ความแม่นยำ (Accuracy) 0.01 mm
4. ไดอัลอินดิเกเตอร์ ขนาด 0–50 mm ความแม่นยำ (Accuracy) 0.01 mm
โครงสร้างของเวอร์เนียคาลิปเปอร์ทำจากวัสดุใด
1. White Steel
2. Iron
3. Stainless Steel
4. Hard Steel
ปัจจุบันเวอร์เนียคาลิปเปอร์ใช้วัดงานอ่านค่าวัดแบบใดบ้าง
1. สเกล
2. นาฬิกาวัด
3. ดิจิตอล
4. ถูกทุกข้อ
Output Connector ของเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์มีไว้เพื่ออะไร
1. ต่อกับ Relay
2. ต่อกับเครื่อง CNC
3. ต่อกับเครื่อง PC
4. ต่อกับจอ (Monitor)
Depth Vernier คือเวอร์เนียชนิดใด
1. วัดความโต
2. วัดความลึก
3. วัดความสูง
4. วัดแบบขั้นบันได
ข้อใดไม่ใช่ชนิดของเวอร์เนียคาลิปเปอร์
1. Vernier Caliper
2. Vernier Height Gauge
3. Gear–Tooth Vernier Caliper
4. Vernier Caliper with Flow
Outside Measuring Jaw ใช้สำหรับวัดงานลักษณะใด
1. ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก
2. ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน
3. ขนาดความสูงพื้นผิวต่างระดับ
4. ขนาดความลึกของรูคว้าน
Step Measuring Face ใช้สำหรับวัดงานลักษณะใด
1. ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก
2. ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน
3. ขนาดความสูงพื้นผิวต่างระดับ
4. ขนาดความลึกของรูคว้าน
Main Scale หรือสเกลหลักประกอบติดอยู่กับส่วนใดของเวอร์เนียคาลิปเปอร์
1. ปากวัดนอก
2. เขี้ยววัดใน
3. ก้านวัดลึก
4. ด้ามเวอร์เนียร์
ความผิดพลาดจากการวัดจากรูปด้านล่างเรียกว่าอะไร
1. Parallax Error
2. Cosine Error
3. Machanical Error
4. Measuring Force Error
ความผิดพลาดจากการวัดจากรูปด้านล่างเรียกว่าอะไร
1. Parallax Error
2. Cosine Error
3. Machanical Error
4. Measuring Force Error
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. ควรเก็บเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์แยกจากเครื่องมืออื่น ๆ
2. อย่าทำเครื่องมือหล่นหรือกระแทก
3. อย่าใช้ปากจับแทนวงเวียนหรือเครื่องมืออื่น
4. ถูกทุกข้อ
ข้อใดควรปฏิบัติเมื่อใช้งานเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์เสร็จเรียบร้อย
1. วางเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์แยกจากเครื่องมืออื่น
2. เลื่อนปากวัดนอกชิดกันแล้วล็อกด้วยสกรู
3. เลือนปากวัดให้ห่างประมาณ 0.5 mm แล้วใส่กล่องหรือซอง
4. วางรวมไว้ในกล่องเครื่องมือเพื่อให้สะดวกต่อการหยิบไปใช้
เมื่อปากวัดของเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์มีรอยเยินที่ขอบควรทำอย่างไร
1. ยกเลิกการใช้งาน
2. ใช้ตะไบตกแต่ง
3. ขัดออกด้วยหินน้ำมัน (Oil Stone
4. ไม่มีข้อใดถูก
มาตรฐาน JIS เวอร์เนียคาลิปเปอร์คือข้อใด
1. JIS B7505 : 1993
2. JIS B7506 : 1993
3. JIS B7507 : 1993
4. JIS B7508 : 1993
ความละเอียดในการวัดของเวอร์เนียคาลิปเปอร์มีค่าเท่าไร
1. 0.05 mm
2. 0.02 mm
3. 0.001 mm
4. ถูกทุกข้อ
การสอบเทียบเวอร์เนียคาลิปเปอร์ โดยทั่วไปทำได้กี่วิธี
1. 1 วิธี คือ การสอบเทียบโดยใช้ Grade Block
2. 2 วิธี คือ การสอบเทียบโดยใช้ Grade Blockการสอบเทียบโดยใช้ Micrometer
3. 3 วิธี คือ การสอบเทียบโดยใช้ Grade Block
  การสอบเทียบโดยใช้ Micrometer
  การสอบเทียบโดยใช้ Laser
4. ไม่มีข้อใดถูก
การประเมินความไม่แน่นอนของเวอร์เนียคาลิปเปอร์มีกี่แบบ
1. 1 แบบ เรียกว่า Type A
2. 2 แบบ เรียกว่า Type A และ Type B
3. 3 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C
4. 4 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C และ Type D
ค่าเฉลี่ย ( ) ของ 20.12, 20.13, 20.14, 20.11 มีค่าเท่าไร
1. 20.122
2. 20.123
3. 20.124
4. 20.125
ค่าเฉลี่ย SD ของ 20.12, 20.13, 20.14, 20.11 มีค่าเท่าไร
1. 0.0029
2. 0.0129
3. 0.0229
4. 0.0329
ค่าที่วัดจากการสอบเทียบสายวัดผ้าที่ระยะ 100 mm ค่า CS = –0.0002 mm ค่า T มีค่าเท่าไร
1. 100.0002 mm
2. –100.0002 mm
3. 99.9998 mm
4. –99.9998 mm
อะตอมหมายถึงข้อใด
1. อนุภาคที่เล็กที่สุดของอิเล็กตรอน
2. อนุภาคที่เล็กที่สุดของธาตุ
3. อนุภาคที่เล็กที่สุดของโมเลกุล
4. อนุภาคของนิวตรอน
ปัจจัยของการประเมินค่าความไม่แน่นอนเนื่องจากระบบโครงสร้างของเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์คือข้อใด
1. ขนาดของชิ้นงาน
2. แรงกดในการวัด
3. ค่า Drift
4. ความเรียบของปากวัด
. การสอบกลับได้ (Traceability) ของ Gauge Block Grade 1, 2 อยู่ในระดับใด
1. International Standard
2. National Standard
3. Working Standard
4. Measuring Equipment
ความหมายของค่าความไม่แน่นอนที่ 10 mm เท่ากับ 0.0325 ที่ความเชื่อมั่น 95% คือข้อใด
1. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 95 ถึง 100
2. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 10.0325 ถึง 10.0650
3. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 9.0325 ถึง 10.0325
4. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 9.9675 ถึง 10.0325
การสอบกลับได้ (Traceability) ของเวอร์เนียคาลิปเปอร์ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. Gauge Block Comparator, Steel Gauge Blocks Grade (1, 2), Steel Gauge Blocks, Grade 00
2. Steel Gauge Blocks Grade (1, 2), Gauge Block Comparator, Steel Gauge Blocks, Grade 00
3. Gauge Block comparator, Stabilized He–Ne Laser Wavelength 633 nm, 543 nm, Iodine Stabilized He–Ne Laser Wavelength 633 nm
4. Steel Gauge Blocks Grade (1, 2), Standard Glass Scale, Linear Scale Calibration
โครงสร้างของเวอร์เนียไฮเกจทำจากวัสดุใด
1. White Steel
2. Iron
3. Stainless Steel
4. Hard Steel
ปัจจุบันเวอร์เนียไฮเกจใช้วัดงานอ่านค่าวัดแบบใดบ้าง
1. สเกล
2. นาฬิกาวัด
3. ดิจิตอล
4. ถูกทุกข้อ
เวอร์เนียไฮเกจใช้กับงานในลักษณะใด
1. วัดขนาดความโตนอก
2. วัดขนาดความโตใน
3. วัดขนาดความลึก
4. วัดขนาดความสูง
เมื่อตรวจสอบความเที่ยงศูนย์เวอร์เนียไฮเกจพบว่าขีดศูนย์สเกลหลักและสเกลเลื่อนไม่ตรงกันควรทำ อย่างไร
1. ปรับที่ปากวัด
2. ปรับที่ปากเลื่อน
3. ปรับที่สเกลเลื่อน
4. ปรับที่บรรทัดสเกล
ปากวัดของเวอร์เนียไฮเกจทำมาจากวัสดุชนิดอะไร
1. เหล็กเหนียว
2. เหล็กหล่อ
3. เหล็กไร้สนิม
4. เหล็กคาร์ไบด์
ความผิดพลาดจากการวัดจากรูปด้านล่างมีชื่อเรียกว่าอะไร
1. Parallax Error
2. Cosine Error
3. Machanical Error
4. Measuring Force Error
ความผิดพลาดจากการวัดจากรูปด้านล่างมีชื่อเรียกว่าอะไร
1. Parallax Error
2. Cosine Error
3. Machanical Error
4. Measuring Force Error
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. ควรเก็บเวอร์เนียไฮเกจแยกจากเครื่องมืออื่น ๆ
2. อย่าทำเครื่องมือหล่นหรือกระแทก
3. อย่าใช้ฐานไฮเกจแทนค้อนหรือเครื่องมืออื่น
4. ถูกทุกข้อ
มาตรฐาน JIS เวอร์เนียไฮเกจคือข้อใด
1. JIS B7515 : 1993
2. JIS B7516 : 1993
3. JIS B7517 : 1993
4. JIS B7518 : 1993
ความละเอียดในการวัดของเวอร์เนียไฮเกจมีค่าเท่าไร
1. 0.02 mm
2. 0.01 mm
3. 0.001 mm
4. ถูกทุกข้อ
การสอบเทียบเวอร์เนียไฮเกจโดยทั่วไปทำได้กี่วิธี
1. 1 วิธี คือ การสอบเทียบโดยใช้ Grade Block
2. 2 วิธี คือ การสอบเทียบโดยใช้ Grade Block
  การสอบเทียบโดยใช้ Micrometer
3. 3 วิธี คือ การสอบเทียบโดยใช้ Grade Block
  การสอบเทียบโดยใช้ Micrometer
  การสอบเทียบโดยใช้ Laser
4. ไม่มีข้อใดถูก
การประเมินความไม่แน่นอนของเวอร์เนียคาลิปเปอร์มีกี่แบบ
1. 1 แบบ เรียกว่า Type A
2. 2 แบบ เรียกว่า Type A และ Type B
3. 3 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C
4. 4 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C และ Type D
ค่าเฉลี่ย ( ) ของ 200.12, 200.13, 200.14, 200.11 คือข้อใด
1. 200.122
2. 200.123
3. 200.124
4. 200.125
ค่าเฉลี่ย SD ของ 20.12, 20.13, 20.14, 20.11 คือข้อใด
1. 0.0029
2. 0.0129
3. 0.0229
4. 0.0329
ค่าที่วัดจากการสอบเทียบเวอร์เนียไฮเกจที่ระยะ 100 mm ค่า CS = –0.0002 mm ค่า T มีค่าเท่าไร
1. 100.0002 mm
2. –100.0002 mm
3. 99.9998 mm
4. 99.9998 mm
การยึดเหนี่ยวอะตอมแบบโควาเลนต์ได้ข้อใด
1. การเรียงตัวโดยใช้อิเล็กตรอนร่วมกัน
2. การเรียงตัวแบบให้และรับของอิเล็กตรอน
3. การเรียงตัวของหน่วยเซลล์
4. การเรียงตัวของอะตอมเป็นกลุ่ม
ปัจจัยของการประเมินค่าความไม่แน่นอนเนื่องจากระบบโครงสร้างของเวอร์เนียไฮเกจคือข้อใด
1. ขนาดของชิ้นงาน
2. แรงกดในการวัด
3. ค่า Drift
4. ความเรียบของปากวัด
การสอบกลับได้ (Traceability) ของ Gauge Block Grade 1, 2 อยู่ในระดับใด
1. International Standard
2. National Standard
3. Working Standard
4. Measuring Equipment
ความหมายของค่าความไม่แน่นอนที่ 250 mm เท่ากับ 0.0325 ที่ความเชื่อมั่น 95% คือข้อใด
1. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 95 ถึง 100
2. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 250.0325 ถึง 250.0650
3. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 249.0325 ถึง 250.0325
4. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 249.9675 ถึง 250.0325
การสอบกลับได้ (Traceability) ของเวอร์เนียไฮเกจข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. Gauge Block Comparator, Steel Gauge Blocks Grade (1, 2), Steel Gauge Blocks,
  Grade 00
2. Steel Gauge Blocks Grade (1, 2), Gauge Block Comparator, Steel Gauge Blocks,
  Grade 00
3. Gauge Block Comparator, Stabilized He–Ne Laser Wavelength 633 nm, 543 nm, Iodine Stabilized He–Ne Laser Wavelength 633 nm
4. Steel Gauge Blocks Grade (1, 2), Standard Glass Scale, Linear Scale Calibration
โครงสร้างของไมโครมิเตอร์ทำจากวัสดุใด
1. White Steel
2. Iron
3. Stainless Steel
4. Hard Steel
ปัจจุบันไมโครมิเตอร์ใช้วัดงานอ่านค่าวัดแบบใด
1. สเกล
2. นาฬิกาวัด
3. ดิจิตอล
4. ถูกทุกข้อ
Output Connector ของไมโครมิเตอร์มีไว้เพื่ออะไร
1. ต่อกับ Relay
2. ต่อกับเครื่อง CNC
3. ต่อกับเครื่อง PC
4. ต่อกับจอ Monitor
Depth Micrometer คือไมโครมิเตอร์ชนิดใด
1. วัดความโต
2. วัดความลึก
3. วัดความสูง
4. วัดแบบขั้นบันได
ข้อใดไม่ใช่ชนิดของไมโครมิเตอร์
1. Vernier Caliper
2. Vernier Height Gauge
3. Gear–Tooth Vernier Caliper
4. Vernier Caliper with Flow
Outside Measuring Jaw ใช้สำหรับวัดงานลักษณะใด
1. ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก
2. ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน
3. ขนาดความสูงพื้นผิวต่างระดับ
4. ขนาดความลึกของรูคว้าน
ประโยชน์ของหัวหมุนกระทบเลื่อนคือข้อใด
1. หมุนแกนวัดเข้าชิ้นงาน
2. หมุนแกนวัดออกชิ้นงาน
3. ให้แรงกดที่มีขนาดเท่ากันทุกครั้ง
4. ให้แรงกดที่มั่นคงและหมุนได้ง่าย
Main Scale หรือสเกลหลักประกอบติดอยู่กับส่วนใดของไมโครมิเตอร์
1. แกนวัด
2. โครง
3. ปลอกสเกลหมุนวัด
4. ปลอกหมุนกระทบเลื่อน
ความผิดพลาดจากการวัดจากรูปด้านล่างเรียกว่าอะไร
1. Parallax Error
2. Cosine Error
3. Machanical Error
4. Measuring Force Error
ความผิดพลาดจากการวัดจากรูปด้านล่างเรียกว่าอะไร
1. Parallax Error
2. Cosine Error
3. Machanical Error
4. Measuring Force Error
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. ควรเก็บไมโครมิเตอร์แยกจากเครื่องมืออื่น ๆ
2. อย่าทำเครื่องมือหล่นหรือกระแทก
3. อย่าใช้ปากจับแทนวงเวียนหรือเครื่องมืออื่น
4. ถูกทุกข้อ
ข้อใดควรปฏิบัติเมื่อใช้งานไมโครมิเตอร์เสร็จเรียบร้อย
1. วางไมโครมิเตอร์แยกจากเครื่องมืออื่น
2. เลื่อนปากวัดนอกชิดกันแล้วล็อกด้วยสกรู
3. เลื่อนปากวัดให้ห่างประมาณ 0.5 mm แล้วใส่กล่องหรือซอง
4. วางรวมไว้ในกล่องเครื่องมือเพื่อให้สะดวกต่อการหยิบไปใช้
ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องในการใช้ไมโครมิเตอร์
1. ไม่ควรใช้ไมโครมิเตอร์วัดชิ้นงานที่มีลักษณะผิวหยาบ
2. การใช้ไมโครมิเตอร์วัดชิ้นงานควรวัดตามแนวแกนและวัดหลาย ๆ ครั้ง
3. ควรเก็บไมโครมิเตอร์แยกจากเครื่องมือชนิดอื่น
4. เมื่อวัดขนาดชิ้นงานเสร็จแล้วนำไมโครมิเตอร์ออกจากชิ้นงานได้เลย
มาตรฐาน JIS ไมโครมิเตอร์คืออะไร
1. JIS B7502 : 1994
2. JIS B7503 : 1994
3. JIS B7504 : 1994
4. JIS B7505 : 1994
ความละเอียดในการวัดไมโครมิเตอร์มีค่าเท่าไร
1. 0.01 mm
2. 0.001 mm
3. 0.0001 mm
4. ถูกทุกข้อ
การสอบเทียบไมโครมิเตอร์โดยทั่วไปทำได้กี่วิธี
1. 1 วิธี คือ การสอบเทียบโดยใช้ Gauge Block
2. 2 วิธี คือ การสอบเทียบโดยใช้ Gauge Block
  การสอบเทียบโดยใช้ Gauge Block Comparator
3. 3 วิธี คือ การสอบเทียบโดยใช้ Gauge Block
  การสอบเทียบโดยใช้ Gauge Block Comparator
  การสอบเทียบโดยใช้ Laser
4. ไม่มีข้อใดถูก
การประเมินความไม่แน่นอนของไมโครมิเตอร์มีกี่แบบ
1. 1 แบบ เรียกว่า Type A
2. 2 แบบ เรียกว่า Type A และ Type B
3. 3 แบบ เรียกว่า Type A, Type B และ Type C
4. 4 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C และ Type D
ค่าเฉลี่ย ( ) ของ 20.12, 20.13, 20.14, 20.11 คือข้อใด
1. 20.122
2. 20.123
3. 20.124
4. 20.125
ค่าเฉลี่ย SD ของ 20.12, 20.13, 20.14, 20.11 คือข้อใด
1. 0.0029
2. 0.0129
3. 0.0229
4. 0.0329
ค่าที่วัดจากการสอบเทียบสายวัดผ้าที่ระยะ 100 mm ค่า CS = –0.0002 mm ค่า T มีค่าเท่าไร
1. 100.0002 mm
2. –100.0002 mm
3. 99.9998 mm
4. 99.9998 mm
ประโยชน์ของการอบชุบโลหะด้วยความร้อนคือข้อใด
1. เพิ่มความแข็ง
2. เพิ่มความเหนียว
3. เพิ่มความแข็งแรง
4. ถูกทุกข้อ
ปัจจัยของการประเมินค่าความไม่แน่นอนเนื่องจากระบบโครงสร้างของไมโครมิเตอร์คือข้อใด
1. ขนาดของชิ้นงาน
2. แรงกดในการวัด
3. ค่า Drift
4. ความเรียบของปากวัด
การสอบกลับได้ (Traceability) ของ Gauge Block Grade 1, 2 อยู่ในระดับใด
1. International Standard
2. National Standard
3. Working Standard
4. Measuring Equipment
ความหมายของค่าความไม่แน่นอนที่ 10 mm เท่ากับ 0.0325 ที่ความเชื่อมั่น 95% คือข้อใด
1. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 95 ถึง 100
2. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 10.0325 ถึง 10.0650
3. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 9.0325 ถึง 10.0325
4. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 9.9675 ถึง 10.0325
การสอบกลับได้ (Traceability) ของไมโครมิเตอร์ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. Gauge Block Comparator, Steel Gauge Blocks Grade (1, 2), Steel Gauge Blocks,
  Grade 00
2. Steel Gauge Blocks Grade (1, 2), Gauge Block Comparator, Steel Gauge Blocks,
  Grade 00
3. Gauge Block Comparator, Stabilized He–Ne Laser Wavelength 633 nm, 543 nm, Iodine Stabilized He–Ne Laser Wavelength 633 nm
4. Steel Gauge Blocks Grade (1, 2), Standard glass scale, Linear scale Calibration
ข้อใดคือชนิดของ Dial Gauge
1. Interface
2. Digital
3. Scale
4. ถูกทุกข้อ
ไดอันเกจ (Dial Gauge) ที่ใช้งานในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ใช้ระบบการวัดแบบใด
1. ระบบ SI
2. ระบบเมตริก
3. ระบบอังกฤษ
4. ระบบเมตริก และระบบอังกฤษ
ข้อควรระวังในการอ่านค่าวัดจากรูปด้านบน การวางแนววัดที่ผิดในลักษณะนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร
1. Cosine Error
2. Sine Error
3. Cos Error
4. Tan Error
ข้อใดควรปฏิบัติเมื่อใช้งาน Dial Gauge เสร็จเรียบร้อย
1. หยอดน้ำมันที่ก้านของ Dial Gauge
2. เช็ดและชโลมด้วยน้ำมัน
3. เช็ดด้วยผ้าให้แห้ง
4. ข้อ ก และ ข ถูก
ก่อนใช้งาน Dial Gauge ควรทำอย่างไรก่อน
1. ตรวจสอบโดยใช้มือดันแกนวัด
2. ตรวจสอบโดยใช้มือยกก้านยก
3. เช็ดทำความสะอาดก่อน
4. ปรับหน้าปัดให้ตรงเลขศูนย์
การตรวจสอบความถูกต้องของ Dial Gauge ข้อได้กล่าวถูกต้อง
1. Retrace Error, Repeatability, Indication Error
2. Parallax Error, Retrace error, Indication Error
3. Retrace Error, Repeatability, Cosine Error
4. Parallax Error, Cosine Error, Indication Error
มาตรฐาน JIS สำหรับ Dial Gauge คือข้อใด
1. JIS B7501 : 1997
2. JIS B7502 : 1997
3. JIS B7503 : 1997
4. JIS B7504 : 1997
การสอบเทียบ Dial Gauge โดยทั่วไปทำได้กี่วิธี
1. 1 วิธี
2. 2 วิธี
3. 3 วิธี
4. 4 วิธี
การประเมินความไม่แน่นอนของ Dial Gauge มีกี่ชนิด
1. 1 แบบ เรียกว่า Type A
2. 2 แบบ เรียกว่า Type A และ Type B
3. 3 แบบ เรียกว่า Type A, Type B และ Type C
4. 4 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C และ Type D
ค่าเฉลี่ย ( ) ของ 0.072, 0.072, 0.072 คือข้อใด
1. 0.071
2. 0.072
3. 0.073
4. 0.074
ค่าเฉลี่ย SD ของ 0.083, 0.083, 0.083 คือข้อใด
1. 0.000
2. 0.001
3. 0.002
4. 0.003
ค่าที่วัดจากการสอบเทียบ Dial Gauge ที่ระยะ 1.20 mm ค่า CS = -0.001 mm ค่า T มีค่าเท่าไร
1. 1.201 mm
2. 1.119 mm
3. 1.109 mm
4. 1.199 mm
โครงสร้างผลึกแบบ BCC คือข้อใด
1. มี 1 อะตอม ใน 1 หน่วยเซลล์
2. มี 4 อะตอม ใน 1 หน่วยเซลล์
3. มี 2 อะตอม ใน 1 หน่วยเซลล์
4. มี 6 อะตอม ใน 1 หน่วยเซลล์
การเรียงตัวของอะตอมอย่างมีระบบทำให้เกิดข้อใด
1. โครงสร้างอะตอม
2. โครงสร้างเกรน
3. โครงสร้างจุลภาค
4. โครงสร้างผลึก
โลหะเหล็กมีระบบผลึกแบบใด
1. HRC
2. BCC
3. HCC
4. FCC
โลหะอะลูมิเนียมมีระบบผลึกแบบใด
1. FCC
2. BCC
3. HRC
4. HCC
โลหะแมงกานีสมีระบบผลึกแบบใด
1. FCC
2. HRC
3. BCC
4. HCC
การสอบกลับได้ (Traceability) ของ Dial Tester อยู่ในระดับใด
1. International Standard
2. National Standard
3. Working Standard
4. Measuring Equipment
ความหมายของค่าความไม่แน่นอนที่ 1.5 mm เท่ากับ 0.0032 ที่ความเชื่อมั่น 95% คือข้อใด
1. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 95 ถึง 100
2. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 1.5032 ถึง 1.5064
3. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 1.4968 ถึง 1.5032
4. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 1.5000 ถึง 1.5032
การสอบกลับได้ (Traceability) ของ Dial Gauge ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. Dial Gauge, Standard Glass Scale, Stabilized He-Ne Laser Wavelength 633 nm
2. Dial Tester, Gauge Block, Stabilized He-Ne Laser Wavelength 633 nm, 543 nm,
  Iodine Stabilized He-Ne Laser Wavelength 633 nm
3. Dial Tester, Standard scale, Stabilized He-Ne Laser Wavelength 633 nm, 543 nm,
  Iodine Stabilized He-Ne Laser Wavelength 633 nm
4. Dial Tester, Linear Scale Calibration, Stabilized He-Ne Laser Wavelength 633 nm,
ข้อใดคือชนิดของ Universal Bevel Protractor
1. Interface
2. Scale Digital
3. Digital
4. ข้อ ข และ ค
Universal Bevel Protractor ที่ใช้งานในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้ระบบการวัดแบบใด
1. องศา
2. องศา ลิปดา
3. องศา ลิปดา และฟิลิปดา
4. เรเดียน
5 องศาเท่ากับกี่ฟิลิปดา
1. 360
2. 180
3. 1,800
4. 18,000
3 26 52 + 4 58 12 มีค่าเท่าไร
1. 7 86 64
2. 8 24 4
3. 7 24 4
4. 8 25 4
38 20 9 – 15 32 56 มีค่าเท่าไร
1. 23 12 47
2. 23 11 13
3. 23 12 13
4. 23 11 04
มุมที่วัดเป็นมุมป้านถ้าอ่านค่าได้เท่ากับ 37 มุมของชิ้นงานที่วัดได้มีค่าเท่าไร
1. 37
2. 127
3. 143
4. 217
ข้อใดควรปฏิบัติเมื่อเมื่อใช้งาน Universal Bevel Protractor เสร็จเรียบร้อย
1. เช็ดทำความสะอาด
2. ชโลมด้วยน้ำมัน
3. ตรวจสอบสภาพหลังการใช้งาน
4. ถูกทุกข้อ
ก่อนใช้งาน Universal Bevel Protractor ควรทำอย่างไรก่อน
1. ตรวจสอบสเกลวัดมุม
2. เลื่อนใบวัดมุมและแขนวัดมุม
3. สกรูล็อกต่าง ๆ
4. ถูกทุกข้อ
การตรวจสอบความถูกต้องของ Universal Bevel Protractor ข้อได้กล่าวถูกต้อง
1. Retrace Error, Repeatability, Indication Error
2. Flat, Straight , Parallel, Retrace Error, Indication Error
3. Flat, Straight , Parallel, Indication Error
4. Parallax Error, Cosine Error, Indication Error
มาตรฐาน BS สำหรับ Universal Bevel Protractor คือ
1. BS 1682 : 1951
2. BS 1683 : 1951
3. BS 1684 : 1951
4. BS 1685 : 1951
การสอบเทียบ Universal Bevel Protractor โดยทั่วไปทำได้กี่วิธี
1. 1 วิธี
2. 2 วิธี
3. 3 วิธี
4. 4 วิธี
การประเมินความไม่แน่นอนของ Universal Bevel Protractor มีกี่ชนิด
1. 1 แบบ เรียกว่า Type A
2. 2 แบบ เรียกว่า Type A และ Type B
3. 3 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C
4. 4 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C และ Type D
ค่าเฉลี่ย ( ) ของ 1 30, 1 30, 1 30, 1 30 คือข้อใด
1. 0.00
2. 1.00
3. 1.30
4. 1.50
ค่าเฉลี่ย SD ของ 1 30, 1 30, 1 30, 1 30 คือ
1. 0.00
2. 1.00
3. 1.30
4. 1.50
ค่าที่วัดจากการสอบเทียบ Universal Bevel Protractor ที่ระยะ 1.20 mm ค่า CS = –0.0001 T มีค่า เท่าไร
1. 1.201
2. 1.1019
3. 1.1009
4. 1.1999
ตำแหน่งของอะตอมที่อยู่กึ่งกลางในหน่วยเซลล์คือข้อใด
1. 1, 1, 1
2. 0, 0, 0
3. 0, 1, 0
4. , ,
ตัวอักษร a, b, c ในวิชาผลึกวิทยาใช้แทนข้อใด
1. แลตทิซ
2. ลูกบาศก์
3. หน่วยเซลล์
4. โครงสร้างผลึก
Angstrom (A0) มีค่าเท่าไร
1. 10–24 ซม.
2. 10–12 ซม.
3. 10–8 ซม.
4. 10–8 ซม.
ทิศทางของผลึกในหน่วยเซลล์ในแนวแกน X คือข้อใด
1. [000]
2. [010]
3. [001]
4. [100]
. การสอบกลับได้ (Traceability) ของ Angle Block อยู่ในระดับใด
1. International Standard
2. National Standard
3. Working Standard
4. Measuring Equipment
ความหมายของค่าความไม่แน่นอนที่ 1.5 เท่ากับ 0.00032 ที่ความเชื่อมั่น 95% คือข้อใด
1. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 95 ถึง 100
2. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 1.50032 ถึง 1.50064
3. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 1.49968 ถึง 1.50032
4. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 1.50000 ถึง 1.50032
การสอบกลับได้ (Traceability) ของ Universal Bevel Protractor ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. Precision Indexing Table, Autocollimator, Stabilized He–Ne Laser Wavelength 543 nm
2. Angle Gauge Block, Precision Indexing Table, Autocollimator, Stabilized He–Ne Laser
  Wavelength 543 nm
3. Precision Indexing Table, Autocollimator, Stabilized He–Ne Laser Wavelength 633 nm
4. Angle Gauge Block, Precision Indexing Table, Autocollimator, Stabilized He–Ne Laser
  Wavelength 633 nm
โครงสร้างของเวอร์เนียคาลิปเปอร์ทำจากวัสดุใด
1. White steel
2. Iron
3. Stainless Steel
4. Hard Steel
ระบบใดเครื่องใดไม่ใช่เครื่องชั่ง
1. Mechanic
2. Electronic
3. Medtronic
4. ถูกทุกข้อ
ข้อใดไม่ใช่หลักการทำงานของเครื่องชั่งอิเล็กทรอนิกส์
1. Load Cell
2. Electromagnetic
3. Strain Gauge
4. Ultrasonic
อุปกรณ์ใดไม่ควรนำมาติดตั้งในห้องชั่ง
1. เครื่องปรับอากาศ
2. เครื่องวัดความดันบรรยากาศ
3. เครื่องวัดความชื้น
4. ผ้าม่านกันแดด
ข้อควรระวังในการติดตั้งเครื่องชั่งข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. วางใกล้พัดลม
2. วางในที่มีแสงสว่างเพียงพอ
3. วางบนโต๊ะ
4. วางในสถานที่มีอุณหภูมิ 25
ความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมสำหรับเครื่องชั่งคือข้อใด
1. 20–35%
2. 35–40%
3. 45–60%
4. 45–65%
หากมีการย้ายเครื่องชั่งไปวางอีกที่หนึ่งจะต้องดำเนินการอย่างไร
1. ไม่ต้องเพราะได้ตั้งค่าไว้แล้ว
2. ต้องปรับค่าใหม่ทั้งหมด
3. ปรับระดับน้ำให้อยู่ในแนวดิ่ง
4. สอบเทียบโดยใช้ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน
ก่อนใช้งานเครื่องชั่งควรทำอย่างไรก่อนทุกครั้ง
1. ปรับระดับน้ำ
2. ปรับค่าศูนย์
3. วางน้ำหนักที่ค่าสูงสุด
4. วางน้ำหนักครึ่งหนึ่ง
Conventional Mass คืออะไร
1. ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน
2. บรรยากาศมาตรฐาน
3. เครื่องชั่งมาตรฐาน
4. มวลมาตรฐาน
มาตรฐานของตุ้มน้ำหนักคือข้อใด
1. OIML R 111–1
2. JIS 2017
3. DIN 1568
4. ISO 1101
ข้อใดกล่าวถูกต้องของการแบ่ง Class สำหรับตุ้มน้ำหนัก
1. E1, E2, F1, F2, M1, M2
2. E1, E2, F1, F2, M1, M2, M3
3. E1, E2, F1, F2, F3, M1, M2, M3
4. E1, E2, E3, F1, F2, F3, M1, M2, M3
ข้อใดกล่าวถูกต้องเมื่อต้องเลือกตุ้มน้ำหนักสำหรับสอบเทียบเครื่องชั่ง
1. Class M1 ใช้กับเครื่องชั่งความละเอียด 0.001 mg
2. Class M2 ใช้กับเครื่องชั่งความละเอียด 0.001 mg
3. Class E2 ใช้กับเครื่องชั่งความละเอียด 0.001 mg
4. Class E1 ใช้กับเครื่องชั่งความละเอียด 0.001 mg
ก่อนการสอบเทียบเครื่องชั่งจะต้องวางเครื่องชั่งและตุ้มน้ำหนักอย่างต่ำเป็นเวลาเท่าไร
1. 15 วินาที
2. 30 นาที
3. 1 ชั่วโมง
4. 24 ชั่วโมง
ขั้นตอนการสอบเทียบเครื่องชั่งข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. วางตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน 10 ครั้ง หาค่าความไม่แน่นอน
2. วางตุ้มน้ำหนักมาตรฐานจำนวน 10 ช่วง หาค่าความไม่แน่นอน
3. วางตุ้มน้ำหนักมากสุด 10 ครั้ง วางตุ้มน้ำหนักมาตรฐานจำนวน 10 ช่วง หาค่าความไม่แน่นอน
4. วางตุ้มน้ำหนักมากสุด 10 ครั้ง วางตุ้มน้ำหนักมาตรฐานจำนวน 10 ช่วง วางตุ้มน้ำหนัก
  ไม่ตรงกลางจานหาค่าความไม่แน่นอน
ตุ้มน้ำหนักที่ใช้สอบเทียบเครื่องชั่ง 1000 g คือข้อใด
1. 1,000 g
2. 100, 200 x 2,500, 1000 g
3. 100, 200, 300, 500, 1,000 g
4. 100, 200, 300, 400, 500, 1,000 g
ความไม่แน่นอนของการสอบเทียบเครื่องชั่งข้อใดที่ไม่ได้นำมาใช้คำนวณ
1. ความเสถียร (Drift)
2. อุณหภูมิ (Temperature
3. ความละเอียด (Resolution)
4. การลอยตัว (Buoyancy)
ค่า ppm ตามข้อกำหนดของ UKAS LAB14 สำหรับ Stainless Steel คือข้อใด
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
ปุ่ม Tare เครื่องชั่งมีไว้เพื่ออะไร
1. ปรับค่าศูนย์
2. ปรับค่าสูงสุด
3. ปรับค่าต่ำสุด
4. ปรับค่าหน่วยชั่ง
การประเมินความไม่แน่นอนของเครื่องชั่งมีกี่แบบ
1. 1 แบบ เรียกว่า Type A
2. 2 แบบ เรียกว่า Type A และ Type B
3. 3 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C
4. 4 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C และ Type D
ค่าเฉลี่ย ( ) ของ 499, 500, 499 คือข้อใด
1. 499.11
2. 499.22
3. 499.33
4. 499.44
ค่าเฉลี่ย SD ของ 499, 499, 500, 500, 500, 499, 500, 500, 499, 499 คือข้อใด
1. 0.517
2. 499.22
3. 0.537
4. 0.547
ค่าน้ำหนักที่วัดจากการสอบเทียบเครื่องชั่งที่ 200 g ค่า CS = –0.0002 g ค่า T มีค่าเท่าไร
1. 200.0002 g
2. 199.9998 g
3. 200.0002 g
4. –199.9998 g
การสอบกลับได้ (Traceability) ของตุ้มน้ำหนักสอบเทียบเครื่องชั่งอยู่ในระดับใด
1. International Standard
2. National Standard
3. Working Standard
4. Measuring Equipment
ความหมายของค่าความไม่แน่นอนที่ 200 g เท่ากับ 0.0003 g ที่ความเชื่อมั่น 95% คือข้อใด
1. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 95 g ถึง 100 g
2. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 200.0003 g ถึง 200.0006 g
3. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 199.9997 g ถึง 200.0003 g
4. ค่าที่วัดได้ อยู่ในช่วง 0.0000 g ถึง 0.0003 g
การสอบกลับได้ (Traceability) ของเครื่องชั่งข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. National Standard, Reference Level, Secondary Level
2. National Standard, Reference Level, Secondary Level, Working Standard
3. National Standard, Reference Level, Working Standard
4. National Standard, Secondary Level, Reference Level, Working Standard
โครงสร้างของประแจวัดแรงบิดทำจากวัสดุใด
1. White Steel
2. Stainless Steel
3. Iron
4. Hard steel
ปัจจุบันประแจวัดแรงบิดใช้วัดงานอ่านค่าวัดแบบใดบ้าง
1. สเกล
2. ดิจิตอล
3. นาฬิกาวัด
4. ถูกทุกข้อ
Output Connector ของประแจวัดแรงบิดมีไว้เพื่ออะไร
1. ต่อกับ Relay
2. ต่อกับเครื่อง PC
3. ต่อกับเครื่อง CNC
4. ต่อกับจอ Monitor
Type ของประแจวัดแรงบิดมีกี่ชนิด
1. Type I, Type II
2. Type I, Type II, Type III
3. Type I, Type II, Type III, Type IV
4. Type I, Type II, Type III, Type IV, Type V
Class ของประแจวัดแรงบิด Type I มีกี่แบบ
1. Class A, B, C
2. Class A, B, C, D
3. Class A, B, C, D, E
4. Class A, B, C, D, E, F
Type I คือประแจวัดแรงบิดแบบใด
1. แบบอ่านค่าแรงบิดได้
2. แบบตั้งค่าแรงบิดได้
3. ไม่สามารถแสดงค่าแรงบิดได้
4. สามารถแสดงและตั้งค่าแรงบิดได้
ย่านการของประแจวัดแรงบิดที่มีเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดมากและไม่ควรนำมาใช้คือข้อใด
1. ต่ำกว่า 10%
2. มากว่ากว่า 10%
3. ต่ำกว่า 20%
4. มากกว่า 20%
อุปกรณ์ใดคือเครื่องสอบเทียบประแจวัดแรงบิด
1. Tension Calibration
2. Torsion Calibration
3. Torque Calibration
4. Textile Calibration
Main Scale หรือสเกลหยาบ ประกอบติดอยู่กับส่วนใดของประแจวัดแรงบิด
1. ชุดหัวจับ
2. ลำตัวของด้าม
3. คันโยกปรับทิศทางการหมุน
4. ชุดปรับตั้งค่า
ความผิดพลาดจากการวัดจากรูปด้านล่างเรียกว่าอะไร
1. Parallax Error
2. Cosine Error
3. Mechanical Error
4. Measuring Force Error
ข้อใดกล่าวถูกต้องขณะใช้งานประแจวัดแรงบิด
1. จับประแจวัดแรงที่ปลายด้าม
2. จับประแจวัดแรงบิดที่ส่วนกลางด้ามแล้วหมุน
3. จับประแจวัดแรงบิดที่ส่วนกลางด้ามแล้วดึงตรง ๆ
4. จับประแจวัดแรงบิดที่ส่วนกลางด้ามแล้วดันออก
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. ควรเก็บประแจวัดแรงบิดแยกจากเครื่องมืออื่น ๆ
2. อย่าทำเครื่องมือหล่นหรือกระแทก
3. อย่าใช้ประแจวัดแรงบิดแทนค้อน
4. ถูกทุกข้อ
ข้อใดควรปฏิบัติเมื่อใช้งานประแจวัดแรงบิดเสร็จเรียบร้อย
1. วางประแจวัดแรงบิดแยกจากเครื่องมืออื่น
2. เลื่อนสเกลละเอียดมายังตำแหน่งศูนย์
3. เลื่อนสเกลละเอียดมายังตำแหน่งสูงสุด
4. วางรวมไว้ในกล่องเครื่องมือเพื่อให้สะดวกต่อการหยิบไปใช้
มาตรฐาน ISO ของประแจวัดแรงบิดคือข้อใด
1. ISO 6789 : 2001 (E)
2. ISO 6789 : 2003 (E)
3. ISO 6789 : 2002 (E)
4. ISO 6789 : 2004 (E)
มุมเอียงตามรูปล่างนี้มีค่าเท่าไร
1. ≤ 3
2.  3
3.  3
4.  3
มุมเอียงตามรูปล่างนี้มีค่าเท่าไร
1. ≤ 10
2.  10
3.  10
4.  10
ขั้นตอนการสอบเทียบดังรูปด้านล่างการสอบเทียบชนิดไร
1. Type I All Class
2. Type I Class A, B, D, E
3. Type II All Class
4. Type II Class A, B, D, E
การประเมินความไม่แน่นอนของประแจวัดแรงบิดมีกี่แบบ
1. 1 แบบ เรียกว่า Type A
2. 2 แบบ เรียกว่า Type A และ Type B
3. 3 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C
4. 4 แบบ เรียกว่า Type A, Type B, Type C และ Type D
ค่าเฉลี่ย ( ) ของ 32.815, 32.890, 32.890, 33.016, 32.865 คือข้อใด
1. 32.894
2. 32.895
3. 32.896
4. 32.897
ค่าเฉลี่ย ( ) คิดเป็น % ของ 32.815, 32.890, 32.890, 33.016, 32.865 เมื่อ N = 40.6 คือข้อใด
1. 23.41
2. 23.42
3. 23.43
4. 23.44
ค่า SD หรือ b คิดเป็น % ของ 32.815, 32.890, 32.890, 33.016, 32.865 เมื่อ N = 40.6 คือข้อใด
1. 0.20
2. 0.21
3. 0.22
4. 0.23
ค่าที่วัดจากการสอบเทียบสายวัดผ้าที่ระยะ 100 mm ค่า CS = –0.0002 mm ค่า T มีค่าเท่าไร
1. 100.0002 mm
2. –100.0002 mm
3. 99.9998 mm
4. –99.9998 mm
โครงสร้างเฟอร์ไรต์มีสมบัติทางกลด้านใด
1. แข็ง
2. แข็งแรง
3. เปราะ
4. อ่อน
เหล็กกล้าที่มีเปอร์เซ็นต์คาร์บอน 0.83 คือเหล็กชนิดใด
1. ไฮเพอร์ยูเทกทอยด์
2. เหล็กเพอร์ไลต์
3. ไฮโพยูเทกทอยด์
4. เหล็กยูเทกทอยด์
ปัจจัยของการประเมินค่าความไม่แน่นอนเนื่องจากระบบโครงสร้างของประแจวัดแรงบิดคือข้อใด
1. ขนาดของประแจวัดแรงบิด
2. ค่า Drift
3. แรงบิดในการวัด
4. ค่าความละเอียดของสเกล
การสอบกลับได้ (Traceability) ของ Torque Wrench Calibration อยู่ในระดับใด
1. International Standard
2. Working Standard
3. National Standard
4. Measuring Equipment
ความหมายของค่าความไม่แน่นอนที่ 40.6 N•m เท่ากับ 24.4% ที่ความเชื่อมั่น 95% คือข้อใด
1. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 0 ถึง 24.4%
2. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 24.4 ถึง 50.00%
3. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 50.00 ถึง 74.4%
4. ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 75.6 ถึง 100%
การสอบกลับได้ (Traceability) ของประแจวัดแรงบิดข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. Torque Standard Machine, Torque Calibration Machine, Torque Transfer Wrench,
  Torque Wrench calibrator
2. Torque Standard Machine, Torque Transducers, Torque Transfer Wrench, Torque
  Wrench calibrator
3. Torque Standard Machine, Unsupported Torque Beam, Torque Transfer Wrench,
  Screwdriver Tester
4. Torque Standard Machine, Torque Calibration Machine, Torque Transfer Wrench,
  Screwdriver Tester
ความดันคือข้อใด
1. น้ำหนักต่อพื้นที่
2. แรงต่อพื้นที่
3. มวลต่อพื้นที่
4. แรงโน้มถ่วงต่อพื้นที่
หน่วย psi แปลงค่าเป็น bar ค่าแฟตเตอร์คือข้อใด
1. 1.450377  10-4
2. 6.894757  10-2
3. 9.806650  10-1
4. 2.895906  10
ความสมบูรณ์มีค่าเท่ากับข้อใด
1. ความดันเกจ
2. ความดันเกจ + ความดันสุญญากาศ
3. ความดันบรรยากาศ + ความดันเกจ
4. ความดันบรรยากาศ + ความดันดิฟเฟอเรนเชียล
มาโนมิเตอร์คือเครื่องมือวัดความดันชนิดใด
1. หลอดแก้วตรง
2. หลอดแก้วตัวยู
3. หลอดแก้วแบบปลายปิด
4. หลอดแก้วแบบแนวนอน
ข้อใดคือชนิดของเกจวัดความดัน
1. บูร์ดอง
2. เบอนูรี
3. ไซฟอน
4. ออริฟิค
รีตาดเกจคือเกจวัดความดันแบบใด
1. มีสเกลเต็ม 100%
2. มีสเกลไม่ครบ 100%
3. มีสเกลละเอียด 80% และ สเกลหยาบ 20%
4. มีสเกลที่มีขนาดสเกลแตกต่างกัน
สาเหตุใดเกจวัดความจึงต้องเติมของเหลวลงไป
1. ป้องกันสนิม
2. เพิ่มน้ำหนัก
3. ลดการสั่นสะเทือน
4. ใช้กับงานวัดความดันสูง
กระจกเงาติดที่หน้าปัดมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ใด
1. เพื่อความสวยงาม
2. เป็นเครื่องหมายบอกชนิดของเกจวัดความดัน
3. ลดความผิดพลาดจากการอ่านค่าความดัน
4. เพื่อเพิ่มแสงสว่างให้อ่านค่าได้สะดวก
การติดตั้งเกจวัดความดันที่ถูกต้องพิจารณาจากสิ่งใด
1. ขนาดของเกจ
2. สภาพแวดล้อม
3. ชนิดของสารที่เติม
4. สัญลักษณ์ที่บอก

ข้อสอบประมวลความรู้ แผนกวิชาช่างซ่อมบำรุง ระดับชั้น ปวช.2

จงเลือกคำตอบที่ถูกต้อง